EasyManua.ls Logo

Bosch GKS Professional Series - Page 54

Bosch GKS Professional Series
93 pages
To Next Page IconTo Next Page
To Next Page IconTo Next Page
To Previous Page IconTo Previous Page
To Previous Page IconTo Previous Page
Loading...
54 | 
1 609 92A 4BR | (19.09.2018) Bosch Power Tools
ที่ครอบมอเตอร์ หากมือทั้งสองถือเครื่องเลื่อยอยู่ มือจะ
ไม่ถูกใบเลื่อยตัด
u อย่าเอื้อมจับด้านล่างของชิ้นงาน กระบังป้องกันใบเลื่อย
ไม่สามารถป้องกันท่านจากใบเลื่อยใต้ชิ้นงานได้
u ปรับความลึกการตัดให้เหมาะกับความหนาของชิ้นงาน
ฟันเลื่อยควรโผล่ยื่นออกมาทางด้านล่างของชิ้นงานน้อย
กว่าหนึ่งฟันเต็ม
u อย่าถือชิ้นงานไว้ในมือหรือจับพาดไว้บนขาของท่าน
ขณะทำการตัดอย่างเด็ดขาด ให้ยึดชิ้นงานกับแท่น
รองที่มั่นคง การรองรับชิ้นงานอย่างถูกต้องเป็นเรื่อง
สำคัญ ทั้งนี้เพื่อลดการสัมผัสกับร่างกาย การติดขัดของใบ
เลื่อย หรือการสูญเสียการควบคุม
u เมื่อทำงานในบริเวณที่เครื่องมือตัดอาจสัมผัสสายไฟฟ้า
ที่ซ่อนอยู่หรือสายไฟฟ้าของตัวเครื่องเอง ต้องจับ
เครื่องมือไฟฟ้าตรงพื้นผิวจับที่หุ้มฉนวน การสัมผัสกับ
สายที่ ”มีกระแสไฟฟ้า” ไหลผ่าน จะทำให้ส่วนที่เป็นโลหะ
ของเครื่องมือไฟฟ้าที่ไม่มีฉนวนหุ้มเกิด “มีกระแสไฟฟ้า”
ด้วย และส่งผลให้ผู้ใช้เครื่องถูกไฟฟ้าดูดได้
u เมื่อตัดซอย ให้ใช้รั้วซอย (rip fence) หรือตัวนำขอบ
ตรงเสมอ ในลักษณะนี้จะทำให้ตัดได้แม่นยำยิ่งขึ้น และลด
โอกาสที่ใบเลื่อยจะติดขัด
u ใช้ใบเลื่อยที่มีขนาดและรูปทรงของรูแกน (สี่เหลี่ยม
ขนมเปียกปูนหรือกลม) ที่ถูกต้องเสมอ ใบเลื่อยที่มีขนาด
ไม่พอดีกับตัวยึดของเครื่องเลื่อยจะวิ่งเยื้องศูนย์ ทำให้เสีย
การควบคุม
u อย่าใช้แหวนรองหรือโบลท์สำหรับใบเลื่อยที่ชำรุดหรือ
ไม่ถูกต้องอย่างเด็ดขาด แหวนรองหรือโบลท์สำหรับใบ
เลื่อยนี้ถูกออกแบบเป็นพิเศษสำหรับเครื่องเลื่อยของท่าน
เพื่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความปลอดภัย
สูงสุด
การตีกลับและคำเตือนเกี่ยวข้อง
- การตีกลับคือปฏิกิริยาสะท้อนกลับที่เกิดขึ้นฉับพลันจากใบ
เลื่อยที่งอ ติดขัด หรือไม่ได้ศูนย์ ทำให้เครื่องเลื่อยที่ควบคุมไม่
ได้ยกตัวออกจากชิ้นงาน และเคลื่อนเข้าหาผู้ใช้เครื่อง
- เมื่อใบเลื่อยงอหรือติดขัดแน่นเนื่องจากคลองเลื่อยปิดลง ใบ
เลื่อยจะถูกบล็อก และแรงสะท้อนของมอเตอร์จะขับเครื่อง
กลับเข้าหาผู้ใช้เครื่องอย่างรวดเร็ว
- หากใบเลื่อยเกิดบิดหรือไม่ได้ศูนย์ในร่องตัด ฟันเลื่อยที่ขอบ
หลังของใบเลื่อยอาจทิ่มเข้าที่ผิวบนของไม้ ทำให้ใบเลื่อยไต่
ออกจากคลองเลื่อยและกระโดดกลับมายังผู้ใช้เครื่อง
การตีกลับเป็นผลจากการใช้เครื่องเลื่อยผิดวัตถุประสงค์ และ/
หรือมีสภาพหรือขั้นตอนการทำงานที่ไม่ถูกต้อง และสามารถ
หลีกเลี่ยงได้โดยเตรียมตัวป้องกันไว้ก่อนอย่างถูกต้องดังต่อไป
นี้
u ใช้มือทั้งสองจับเครื่องเลื่อยให้แน่น และตั้งท่าแขนของ
ท่านไว้ต้านแรงตีกลับ ตั้งตำแหน่งร่างกายของท่านให้
อยู่ทางด้านข้างของใบเลื่อยด้านใดด้านหนึ่ง แต่อย่าอยู่
ในแนวเดียวกันกับใบเลื่อย การตีกลับอาจทำให้เครื่อง
กระโดดถอยหลัง แต่ผู้ใช้เครื่องสามารถควบคุมแรงตีกลับ
ได้ หากได้เตรียมตัวป้องกันไว้ก่อนอย่างถูกต้อง
u เมื่อใบเลื่อยเกิดติดขัด หรือการตัดถูกขัดจังหวะด้วยสา
เหตุใดๆ ก็ตาม ให้ปล่อยนิ้วจากสวิทช์ และจับเครื่อง
เลื่อยให้นิ่งอยู่ในวัสดุจนกว่าใบเลื่อยจะหยุดสนิท อย่า
พยายามเอาเครื่องเลื่อยออกจากชิ้นงานหรือดึงเครื่อง
เลื่อยไปข้างหลังขณะใบเลื่อยกำลังหมุนอยู่อย่างเด็ด
ขาด มิฉะนั้นอาจเกิดการตีกลับได้ ตรวจหาสาเหตุและ
ดำเนินการแก้ไขเพื่อกำจัดสาเหตุการติดขัดของใบเลื่อย
u เมื่อสตาร์ทเครื่องเลื่อยอีกครั้งในชิ้นงาน ให้ตั้งใบเลื่อย
ไว้ตรงกลางในคลองเลื่อยโดยไม่ให้ฟันเลื่อยขบในวัสดุ
หากใบเลื่อยติดขัด ใบเลื่อยอาจกระโดดหรือตีกลับจากชิ้น
งานเมื่อสตาร์ทเครื่องเลื่อยอีกครั้ง
u หนุนแผ่นชิ้นงานที่มีขนาดใหญ่เพื่อลดความเสี่ยงที่ใบ
เลื่อยจะติดขัดและเกิดการตีกลับ แผ่นชิ้นงานที่มีขนาด
ใหญ่มักจะห้อยหย่อนตามความถ่วงน้ำหนักของตัวแผ่นเอง
ต้องใช้ที่รองหนุนใต้แผ่นชิ้นงานทั้งสองข้าง คือใกล้เส้นตัด
และใกล้ขอบแผ่นชิ้นงาน
u อย่าใช้ใบเลื่อยที่ทื่อหรือชำรุด ใบเลื่อยที่ไม่ได้ลับคมหรือ
ปรับตั้งไว้อย่างไม่ถูกต้องจะให้คลองเลื่อยที่แคบ ทำให้เกิด
การเสียดสีมากเกินไป ใบเลื่อยเกิดติดขัดและตีกลับ
u ก่อนตัด ต้องขันคันปรับความลึกใบเลื่อยและคันปรับ
ความลาดเอียงของมุมตัดให้แน่น หากการปรับใบเลื่อย
เคลื่อนที่ขณะทำการตัด อาจทำให้ใบเลื่อยติดขัดและตีกลับ
ได้
u ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อเลื่อยเข้าไปในผนังที่มี
อยู่หรือบริเวณจุดบอดอื่นๆ ใบเลื่อยที่ยื่นออกมาอาจตัด
วัตถุที่อาจทำให้เกิดการตีกลับ
การทำงานของกระบังล่าง
u ตรวจสอบกระบังล่างให้ปิดอย่างถูกต้องก่อนใช้งานทุก
ครั้ง อย่าใช้เครื่องเลื่อยหากกระบังล่างเคลื่อนไหวไป
มาอย่างอิสระไม่ได้และไม่ปิดในทันที อย่าหนีบหรือผูก
กระบังล่างให้อยู่ในตำแหน่งเปิดหากเครื่องเลื่อยตกหล่น
โดยบังเอิญ กระบังล่างอาจโก่งงอ เปิดกระบังล่างด้วยคัน
จับที่ชักร่นได้ และดูให้แน่ใจว่ากระบังล่างเคลื่อนไหวไปมา
ได้อย่างอิสระ และไม่แตะใบเลื่อยหรือส่วนอื่นใดในมุมตัด
และความลึกการตัดทั้งหมด
u ตรวจสอบการทำงานของสปริงของกระบังล่าง หาก
กระบังและสปริงทำงานไม่ถูกต้อง ต้องนำไปซ่อมบำรุง
ก่อนใช้งาน กระบังล่างอาจทำงานเฉื่อยเนื่องจากชิ้นส่วน
ชำรุด ขี้กบถูกพัดมากองติดเหนียว หรือกองสะสมกัน
u อาจใช้มือชักร่นกระบังล่างเฉพาะเมื่อต้องการตัดแบบ
พิเศษเท่านั้น เช่น "การจ้วงตัด" และ "การตัดแบบ
ผสม" เปิดกระบังล่างด้วยคันจับที่ชักร่นได้ และต้อง
ปล่อยกระบังล่างในทันทีที่ใบเลื่อยขบเข้าในวัสดุสำหรับ
การเลื่อยแบบอื่นทั้งหมด กระบังล่างควรต้องทำงานโดย
อัตโนมัติ
u ตรวจดูให้กระบังล่างครอบใบเลื่อยทุกครั้งก่อนวาง
เครื่องเลื่อยลงบนโต๊ะทำงานหรือบนพื้นใบเลื่อยที่ไม่ถูก
ปกป้องและยังคงวิ่งต่อจะทำให้เครื่องเลื่อยเดินถอยหลัง
ตัดสิ่งใดก็ตามที่ขวางทาง พึงคำนึงถึงระยะเวลาที่ใบเลื่อย
จะหยุดหลังจากปิดสวิทช์แล้ว
คำแนะนำเพื่อความปลอดภัยเพิ่มเติม
u อย่ายื่นมือเข้าไปในช่องพ่นขี้กบออก ท่านอาจได้รับบาด
เจ็บจากชิ้นส่วนที่หมุนอยู่
u อย่าใช้เครื่องเลื่อยทำงานเหนือศีรษะ ในลักษณะนี้ท่าน
จะไม่สามารถควบคุมเครื่องมือไฟฟ้าได้อย่างเพียงพอ
u ใช้เครื่องตรวจจับที่เหมาะสมเพื่อตรวจหาสายไฟฟ้า
หรือท่อสาธารณูปโภคที่อาจซ่อนอยู่ในบริเวณทำงาน
หรือติดต่อบริษัทสาธารณูปโภคในพื้นที่เพื่อขอความ
ช่วยเหลือ การสัมผัสกับสายไฟฟ้าอาจทำให้เกิดไฟ

Related product manuals